นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด

บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญในเรื่องการคุ้มครองและเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของท่านที่มีอยู่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎระเบียบ กฎเกณฑ์ ประกาศ และ/หรือกฎหมายลำดับรองใด ๆ ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว ที่อาจมีการปรับปรุง แก้ไข เปลี่ยนแปลง และ/หรือแทนที่เป็นครั้งคราว (รวมเรียกว่า “พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) และมุ่งหมายที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ส่งหรือโอน และ/หรือประมวลผลโดยประการอื่นใด (“การประมวลผล” หรือ “ประมวลผล”) เพื่อการดำเนินกิจการของบริษัทตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ โดยบริษัทได้จัดให้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสในการประมวผลลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงเพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ขอบเขตของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของบริษัทในเรื่องความเป็นส่วนตัว วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจทำการประมวลผล วิธีที่บริษัทมุ่งหมายจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลภายนอกที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลให้ทราบ การจัดเก็บและเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

กรุณาอ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยละเอียด

บทนิยาม

บริษัทในเครือ หมายถึง บริษัท สยามคูโบต้า ลีสซิ่ง จำกัด, บริษัท คูโบต้า รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ เอเชีย จำกัด, บริษัท เกษตรอินโน จำกัด, บริษัท คูโบต้าคอร์ปอเรชั่น (ญี่ปุ่น), บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทในเครือในกลุ่มของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)  รวมถึงนิติบุคคลใด ๆ ที่บริษัทถือหุ้น หรือซึ่งถือหุ้นในบริษัท ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ซึ่งอาจตั้งอยู่ในประเทศไทย หรือประเทศอื่นใด

ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับบุคคลธรรมดาที่ทำให้สามารถระบุถึงตัวบุคคลธรรมดานั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถึงแก่กรรม

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 26 ของพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันที่อาจมีการประกาศกำหนดโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้กับ (ก) ลูกค้าซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ได้แก่ ลูกค้า ผู้ที่อาจเป็นลูกค้า ผู้ที่เคยเป็นลูกค้า และบุคคลที่กระทำการแทนลูกค้า (รวมเรียกว่า “ลูกค้าบุคคลธรรมดา”) (ข) กรรการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน บุคคลติดต่อ และบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง (“บุคคลติดต่อ”) กับลูกค้าของบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคล (“ลูกค้านิติบุคคล”) (ค) บุคคลธรรมดาใด ๆ ที่ อาจเป็นลูกค้าในอนาคต (“ผู้ที่อาจเป็นลูกค้า”) (ง) บุคคลใด ๆ ที่เข้าถึง หรือใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และ/หรือแพลตฟอร์มอื่นใด (“แพลตฟอร์ม”) ที่ให้บริการโดยบริษัทหรือบริษัทในเครือ ผู้เข้าร่วมงาน ผู้เยี่ยมชม และผู้จัดแสดงผลงานของลูกค้า ตลอดจนบุคคลอื่น ๆ ที่ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงาน งานจัดแสดงเพื่อการส่งเสริมการขายสินค้า (งานอีเวนต์) นิทรรศการ หรือกิจกรรมอื่น ๆ (“ลูกค้าอื่น ๆ” และรวมเรียกลูกค้าบุคคลธรรมดา บุคคลติดต่อ ผู้ที่อาจเป็นลูกค้า และลูกค้าอื่น ๆ รวมกันว่า “ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”)

บริษัทอาจทบทวนและปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราวไป เช่น เพื่อให้มีความสอดคล้องเมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเทคโนโลยีของบริษัท หรือกิจกรรมการประมวลผลของบริษัท เป็นต้น ท่านควรตรวจสอบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่แสดงไว้บนแพลตฟอร์มของบริษัทเป็นระยะ ๆ เพื่อที่ท่านจะได้ทราบหากมีการปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้ เมื่อมีการปรับปรุงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบโดยการแสดงข้อความว่า “ปรับปรุงใหม่” ไว้ที่ลิงก์ของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏอยู่บนแพลตฟอร์มของบริษัทเป็นเวลา 30 วัน และทั้งนี้ ในกรณีที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านล่วงหน้าก่อนที่การแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับ

1. ข้อมูลประเภทใดบ้างที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่าน

บริษัทเก็บรวบรวม “ข้อมูลส่วนบุคคล” เท่าที่จำเป็นตามสมควรสำหรับการดำเนินกิจกรรมของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลต่อไปนี้

2. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

โดยทั่วไป บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง เช่น เมื่อท่านติดต่อหรือมีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อีเมล จดหมาย โทรศัพท์ หรือเข้ามาพบเพื่อติดต่อบริษัท ณ สถานที่ทำการของบริษัท เมื่อท่านได้ขอใบเสนอราคาหรือขอข้อมูลจากบริษัท ส่งแบบฟอร์มและเอกสารต่าง ๆ ให้กับบริษัท ส่งความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ หรือแจ้งเบาะแสผ่านช่องทางต่าง ๆ หรือลงทะเบียนหรือให้ข้อมูลติดต่อสำหรับงานอีเวนต์ งานนิทรรศการ การส่งเสริมการขาย หรือกิจกรรมอื่น ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ ในบางกรณี บริษัทอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น อาทิ บริษัทในเครือ ผู้แทนจำหน่ายของบริษัท ผู้ให้บริการบุคคลภายนอก แหล่งข้อมูลออนไลน์สาธารณะ (เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือสื่อสังคมออนไลน์ (Online Social Media) ต่าง ๆ ไม่ว่าจะของภาคเอกชน ภาครัฐ หรือสมาคมการค้าใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง) กรณีที่บุคคลที่ท่านรู้จักได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้บริษัทนำเสนอสินค้าหรือสินค้า นายจ้างของท่าน บุคคลแวดล้อมหรือบุคคลใกล้ชิดของท่าน (เช่น ญาติ เพื่อนบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นต้น) หน่วยงานหรือองค์กรที่ท่านเป็นสมาชิก หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจ บุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ เป็นต้น

3. บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

รายละเอียดวัตถุประสงค์ และฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคคลของท่านโดยบริษัท มีดังนี้

หากบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำหรับการใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกจากที่ระบุไว้ข้างต้น บริษัทมุ่งหมายที่จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์นั้นในขณะที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลนั้น ๆ ทั้งนี้ ตามที่ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

4. บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อผู้อื่นในกรณีใดและอย่างไร

เพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ข้างต้น บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก ดังนี้

• บริษัทในเครือ
• ผู้แทนจำหน่ายของบริษัท
• ผู้รับจ้างช่วง ผู้ให้บริการ และซัพพลายเออร์ และตัวแทนลักษณะอื่น ๆ ที่ดำเนินการในนามของบริษัท หรือถูกว่าจ้างโดยบริษัท เช่น ผู้ให้บริการด้านการเงิน ผู้ให้บริการด้านการชำระเงิน ผู้ให้บริการพื้นที่บนอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการระบบคลาวด์หรือเครือข่ายข้อมูล ผู้ให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการช่วยเหลือด้านการลงทะเบียนเข้าร่วมงานต่าง ๆ ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนอกประเทศ ผู้ให้บริการรักษาความปลอดภัย ผู้ให้บริการบริการสอบบัญชี ผู้ให้บริการด้านการตรวจสอบ ผู้ให้บริการด้านกฎหมาย ที่ปรึกษา บริษัทประกันภัย ผู้ให้บริการเกี่ยวกับการประกันภัย ผู้ให้บริการวิจัยตลาด ผู้ให้บริการจัดส่งอีเมล ข้อความทางโทรศัพท์ ไปรษณีย์ หรือด้านโลจิสติกส์อื่น ๆ ผู้ให้บริการจัดการประมูลสินค้า ผู้ให้บริการสถานที่จัดงาน ผู้ให้บริการจัดกิจกรรม ผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรม เป็นต้น
• ตัวแทนที่ขายหรือประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการในนามของบริษัท
• สถาบันการเงิน
• ผู้ที่ซื้อหรือขาย หรือจะซื้อหรือจะขาย ในกรณีที่บริษัทขายธุรกิจหรือกิจการของบริษัทไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน การควบรวมกิจการ หรือในกรณีที่บริษัทประสงค์จะเข้าซื้อธุรกิจหรือบริษัทอื่น
• เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย หน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลการประกอบธุรกิจของบริษัทตามกฎหมาย หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง หรือศาล รวมถึงบุคคลอื่นใดก็ตามที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บุคคลนั้นทราบ
• บุคคลอื่นใดก็ตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ทั้งนี้ บุคคลภายนอกดังกล่าวอาจอยู่ในประเทศไทย หรือประเทศอื่น ๆ ซึ่งประเทศอื่น ๆ นั้นอาจไม่มีกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับในประเทศ หรือมีแต่ไม่เพียงพอหรือได้มาตรฐานเทียบเท่ากับพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม บริษัทจะดำเนินการต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจได้ว่า บุคคลภายนอกดังกล่าวจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ข้างต้น รวมถึงจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เพียงพอตามที่พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดอย่างเคร่งครัด

5. การเก็บรักษาข้อมูล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์กับท่าน เช่น ตลอดระยะเวลาที่มีการซื้อขายสินค้าของบริษัท และเมื่อท่านยุติความสัมพันธ์กับบริษัทแล้ว บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลเกี่ยวกับท่าน ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้ต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น แต่ทั้งนี้บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปไม่เกินระยะเวลา 10 ปี นับแต่ความสัมพันธ์สิ้นสุดลง เว้นแต่ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปนานกว่า 10 ปี หรือตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด หรืออนุญาตให้ทำได้

6. การใช้งานคุกกี้

เมื่อท่านเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทในหน้าที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เซิร์ฟเวอร์ของแพลตฟอร์มจะบันทึกการเยี่ยมชมและเก็บข้อมูลทางเทคนิคของท่าน ข้อมูลนี้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านสถิติเท่านั้น เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถทราบได้ว่าส่วนใดของเว็บไซต์ของบริษัทที่ผู้ใช้งานแพลตฟอร์มของบริษัทเยี่ยมชมมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้บริษัททราบได้ว่าจะปรับปรุงบริการของบริษัทอย่างไร

สำหรับในส่วนของเว็บไซต์ที่จำกัดการเข้าถึง บริษัทจะใช้ “คุกกี้” ซึ่งเป็นเครื่องมือที่จดจำอุปกรณ์ของท่านและเก็บข้อมูลบางประเภทในระหว่างที่มีการเยี่ยมชมแพลตฟอร์ม เพื่อให้สามารถตอบสนองท่านได้ดีขึ้นเมื่อท่านเข้าใช้แพลตฟอร์ม โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์และการเชื่อมต่อของท่าน เช่น ประเภทและเวอร์ชันของเบราว์เซอร์ที่ใช้ ประเภทและเวอร์ชันของปลั๊กอินของเบราว์เซอร์ที่ใช้ ระบบปฏิบัติการ และภาษาที่เลือกใช้ เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ และไม่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่านได้

ท่านสามารถปรับการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่านเพื่อปิดการใช้งานคุกกี้ได้หากท่านต้องการ ทั้งนี้ เมื่อท่านปิดใช้งานคุกกี้ ท่านอาจไม่สามารถใช้บริการแพลตฟอร์มของบริษัทได้ในบางส่วน

สิ่งสำคัญคือท่านต้องป้องกันไม่ให้ผู้อื่นทราบรหัสผ่านและเข้าถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต ท่านควรออกจากระบบทุกครั้งหากท่านเข้าถึงแพลตฟอร์มของบริษัทผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานร่วมกับผู้อื่น

7. เว็บไซต์ของบุคคลภายนอก

แพลตฟอร์มของบริษัทอาจมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มที่ดำเนินการโดยบุคคลภายนอก (“เว็บไซต์ของบุคคลภายนอก”) นอกจากนี้ บริษัทอาจจัดให้มีเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกเพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับงานนิทรรศการ งานอีเวนต์ หรือกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ เพื่อให้ท่านสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงาน เพื่อให้ท่านสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ เป็นต้น ซึ่งในกรณีดังกล่าว ท่านรับทราบว่า บริษัทไม่ใช่ผู้ควบคุมเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกเหล่านั้น และไม่มีหน้าที่รับผิดชอบใด ๆ เกี่ยวกับแนวปฏิบัติของผู้ดำเนินการเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก

ท่านรับทราบว่า ท่านมีหน้าที่ต้องอ่านและทำความเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไข รวมถึงนโยบายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องของเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก รวมถึงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

8. ผู้เยาว์

บริษัทไม่อาจทราบอายุของบุคคลที่ใช้งานแพลตฟอร์มของบริษัท หากท่านเป็นพ่อแม่หรือผู้ใช้อำนาจปกครองของผู้เยาว์ที่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของตนแก่บริษัทโดยที่ท่านไม่ทราบและไม่ได้ให้ความยินยอม โปรดติดต่อบริษัทเพื่อให้บริษัทลบข้อมูลเหล่านั้น ทั้งนี้ ผู้เยาว์ หมายถึง บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เว้นแต่ในกรณีที่ผู้เยาว์ได้สมรสโดยชอบด้วยกฎหมาย

9. สิทธิของท่าน

โดยขึ้นอยู่กับข้อจำกัด และเงื่อนไขของพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของตน ดังนี้

• ในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานความยินยอม ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนการเพิกถอนความยินยอมนั้น
• ท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความครอบครอง หรือการควบคุมของบริษัท หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ โดยบริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนด หรืออนุญาตไว้เป็นอย่างอื่น
• ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้ทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ (หากมี) รวมถึงขอให้ส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นหากสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
• ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น ในกรณีที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการตลาดแบบตรง เป็นต้น
• ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
• ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนด หรืออนุญาตไว้เป็นอย่างอื่น นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอให้บริษัทเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมไว้
• ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเท่าที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทขอให้ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันกับบริษัท และแจ้งให้บริษัททราบโดยทันทีหากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
• ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านเห็นว่า การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทไม่เป็นไปตามที่พ.ร.บ. ข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

9. ติดต่อเรา

หากท่านมีข้อสงสัยใดเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือประสงค์ที่จะใช้สิทธิเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ E-mail: [email protected] หรือ KUBOTA CONNECT: 02-0291747