เข้าสู่ระบบ เข้าสู่ระบบ ทดลองขับ ทดลองขับ สินค้าตามการใช้งาน สินค้าตามการใช้งาน ผู้แทนจำหน่าย ผู้แทนจำหน่าย คำนวนสินเชื่อ คำนวนสินเชื่อ
กลับ

สาระความรู้

ดูแลทุเรียน 700 ต้น บนพื้นที่ 40 ไร่ บำรุงทั่วถึง ทำเองได้ ไม่ต้องใช้แรงงานเพิ่ม

ดูแลทุเรียน 700 ต้น บนพื้นที่ 40 ไร่ บำรุงทั่วถึง ทำเองได้ ไม่ต้องใช้แรงงานเพิ่ม

ดูแลทุเรียน 700 ต้น บนพื้นที่ 40 ไร่ บำรุงทั่วถึง ทำเองได้ ไม่ต้องใช้แรงงานเพิ่ม

 

หนึ่งในพืชที่สร้างรายได้หลักให้กับประเทศไทยตอนนี้ คงหนีไม่พ้น “ทุเรียน” ราชาผลไม้ไทย ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ นอกจากจะเป็นที่นิยมแล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องการปลูกยาก นอกจากประสบการณ์ที่ต้องสั่งสมจากการลงมือทำจริง ต้องมาพร้อมกับความใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การบำรุงรักษา ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว ดังนั้นการทำสวนทุเรียนให้เจริญงอกงามและประสบความสำเร็จ จนสามารถสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพ สร้างกำไรจนต่อยอด ขยับขยายพื้นที่ให้เจ้าของสวนได้ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่กับเจ้าของสวนทุเรียนหมอนทองราว 700 ต้น บนผืนดินกว่า 40 ไร่ “คุณเตชสิทธิ์ ช่วยป้อง” อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ผู้ที่ทำให้สวนทุเรียนเติบโตและดำเนินกิจการของครอบครัวมาได้จนถึงทุกวันนี้ แล้วเคล็ดลับในการดูแลต้นทุเรียนทั้ง 700 ต้น ด้วยตัวเองและครอบครัวจะเป็นอย่างไร ตามไปชมเรื่องราวจากประสบการณ์จริงของคุณเตชสิทธิ์กัน

 

หลังจากที่คุณเตชสิทธิ์ได้รับช่วงทำสวนทุเรียนหมอนทองต่อจากครอบครัวเมื่อ 10 ปีก่อน ในช่วงแรกมีทุเรียนในสวนเพียง 100 ต้น จากนั้นด้วยความมานะพยายามของตัวเอง รวมถึงการสนับสนุนจากครอบครัว คุณเตซสิทธิ์ตัดสินใจใช้เครื่องจักรกลการเกษตรมาทดแทนแรงงานคน ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจนได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และการเก็บเล็กผสมน้อยจากกำไร คุณเตชสิทธิ์ค่อยๆ ซื้อที่ดินเพิ่ม ขยายสวนทุเรียนมาเรื่อย ๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป จนกลายมาเป็นสวนทุเรียนหมอนทองขนาดใหญ่ มีเนื้อที่กว่า 40 ไร่ มองไปไกลสุดลูกหูลูกตา พร้อมทุเรียนกว่า 700 ต้น ภายในระยะเวลา 10 ปี ถึงแม้พื้นที่จะเพิ่มขึ้น แต่คุณเตชสิทธิ์ก็ยังคงความคิดเดิม คือ ดูแลสวนด้วยตัวเองและครอบครัว รวมแล้ว 3 คน พร้อมใช้เครื่องจักรกลการเกษตร ผู้ช่วยสารพัดประโยชน์อย่างแทรกเตอร์คูโบต้า

 

หลังจากเก็บเกี่ยวทุเรียนแล้ว การดูแลบำรุงรักษาถือเป็นหัวใจสำคัญของคุณภาพผลผลิตที่จะได้เก็บเกี่ยวในรอบถัดไป เพราะนอกจากจะเป็นการเตรียมความพร้อมของทุเรียนทุกต้นสำหรับการติดดอก ออกผลในฤดูกาลถัดไป ยังเป็นช่วงที่

เกษตรกรได้ปรับปรุงคุณภาพควบคู่กันไปกับการเพิ่มปริมาณผลทุเรียนอีกด้วย คุณเตชสิทธิ์บอกว่าโดยส่วนตัวจะเน้นไปที่การรดน้ำ หมั่นใส่ปุ๋ยสูตรเฉพาะที่เหมาะกับต้นทุเรียนช่วงทำใบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มสารอาหารให้กับต้น

ทุเรียน ถ้าหากได้เครื่องจักรกลการเกษตรที่มีประสิทธิภาพและความแม่นยำ ก็จะช่วยให้ใส่ปุ๋ยได้เหมาะสมและตรงตามความต้องการ ช่วยลดต้นทุนด้านแรงงานและต้นทุนปุ๋ยได้ และปิดท้ายด้วยการพ่นยา ซึ่งคุณเตชสิทธิ์ไว้ใจเลือกใช้แทรกเตอร์คูโบต้าเข้ามาช่วยในขั้นตอนสำคัญ เพื่อการดูแลบำรุงต้นทุเรียนทั้ง 700 ต้น ในพื้นที่ 40 ไร่ อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง โดยการบำรุงรักษาต้นทุเรียน คุณเตชสิทธิ์จะมีขั้นตอนดังนี้

 

  • ตัดกิ่งที่เป็นโรค กิ่งน้ำค้าง กิ่งแห้ง กิ่งแขนงด้านในทรงพุ่มออกให้หมด รวมถึงก้านทุเรียนที่ยังตัดไม่หมด เหลือไว้แต่กิ่งที่สมบูรณ์ ต้นทุเรียนต้องโปร่งให้แสงแดดและอากาศเข้าถึงได้ดี ลดการระบาดของโรคและแมลง
  • เก็บวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณต้นทุเรียน เช่น ไม้ค้ำ เชือกโยง ถุงห่อทุเรียน ฯลฯ
  • ทำความสะอาดโคนต้นทุเรียน กำจัดวัชพืช และหญ้าบริเวณท้องร่องสวน โดยใช้แทรกเตอร์คูโบต้าต่อพ่วงกับเครื่องตัดหญ้าตราช้าง ที่สามารถตัดหญ้าตามได้ระดับความสูงตามต้องการ เรียบเนียนทั่วทั้งแปลง และยังไม่ทำลายหน้าดินอีกด้วย
  • ใส่ปุ๋ยอินทรีย์และพ่นยา เพื่อบำรุงต้น ป้องกันโรคเชื้อราในฤดูฝน และแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะ เพลี้ยไฟ เพลี้ยไก่แจ้ โดยใช้แทรกเตอร์คูโบต้า ต่อพ่วงกับ เครื่องพ่นยาแบบใบพัด (Air Blast)

 

“ใช้เถอะครับ แทรกเตอร์คูโบต้า คุ้มครับ”
คุณเตชสิทธิ์กล่าว ระหว่างให้สัมภาษณ์ 

 

 

เหตุผลที่คุณเตซสิทธิ์ยึดมั่นที่จะใช้แทรกเตอร์คูโบต้าในการดูแลต้นทุเรียนทั้ง 700 ต้น เพราะพิสูจน์มาแล้วคุ้มกว่าการใช้แรงงานคนจำนวนมากในการเดินฉีดพ่นยาแต่ละแปลง ถ้าแรงงานคนอาจจะต้องใช้เวลาเป็นวันๆ บางทีฉีดไม่ทั่วถึง อาจจะทำให้ต้นทุเรียนเสี่ยงต่อโรคและแมลงได้ เทียบกับการใช้แทรกเตอร์ สามารถช่วยประหยัดเวลา และช่วยลดต้นทุน เพราะเมื่อใช้แทรกเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงอย่างเครื่องพ่นยาแบบใบพัด (Air Blast) ขับพ่นยาเอง ทำเองคนเดียว ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงก็เสร็จ ทั่วถึงทั้ง 40 ไร่ แบบสบาย ๆ หรือจะต่อพ่วงกับเครื่องตัดหญ้าตราช้าง ที่สามารถตัดหญ้าได้ระดับตามต้องการ ทนทานพร้อมลุยทุกร่องสวน ช่วยดูแลความเรียบร้อยภายในสวนกำจัดวัชพืช ทำให้ทุเรียนเติบโตได้ดี และสามารถทำได้ด้วยคนเดียว และอีกสารพัดประโยชน์ เรียกว่า “ทุกการบำรุงรักษา ครบ จบ ในคันเดียว” ทั้งประหยัดแรง ประหยัดเวลา ใช้งานได้หลากหลายครบครัน และที่สำคัญคือ เจ้าของสวนก็สามารถทำเองได้ไม่ต้องจ้างแรงงานเพิ่ม ทำให้คุณเตชสิทธิ์เหลือเวลาไปทำงานส่วนอื่น และเหลือต้นทุนไว้สำหรับต่อยอดการทำสวนอีกด้วย

 

สำหรับใครที่สนใจ ลงทะเบียนรับสิทธิ์โปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าชาวสวนผลไม้มืออาชีพ คลิก : https://bit.ly/49wQNHB

สินค้าที่เหมาะกับการใช้งาน

  • U55-6S (AC) KIS

    รุ่น 5 ตัน

    U55-6S (AC) KIS
    ราคา
    1,789,000 บาท

    รายละเอียด

    ตอบโจทย์การทำงานที่ท้าทายด้วยหลากหลายฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มความสมบุกสมบัน และความสะดวกสบาย ทำงานได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุดทั้งงานก่อสร้าง และเกษตรกรรม รวมถึงระบบ KIS นวัตกรรมอัจฉริยะที่ช่วยติดตามเครื่องจักรผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ พร้อมให้ทุกท่านสัมผัสได้แล้ววันนี้!

    ราคาข้างต้นเป็นราคาสินค้ารุ่น U55-6S AC KIS KM = 1,779,000 บาท
    สำหรับสินค้า Without bucket U55-6S AC KIS KM = 1,764,000 บาท

  • KX080-3 KIS

    รุ่น 8 ตัน

    KX080-3 KIS
    ราคา
    2,427,000 บาท
  • U55-6S KIS

    รุ่น 5 ตัน

    U55-6S KIS
    ราคา
    1,590,000 บาท

    รายละเอียด

    ตอบโจทย์การทำงานที่ท้าทายด้วยหลากหลายฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มความสมบุกสมบัน และความสะดวกสบาย ทำงานได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุดทั้งงานก่อสร้าง และเกษตรกรรม รวมถึงระบบ KIS นวัตกรรมอัจฉริยะที่ช่วยติดตามเครื่องจักรผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ พร้อมให้ทุกท่านสัมผัสได้แล้ววันนี้!

    ราคาข้างต้นเป็นราคาสินค้ารุ่น U55-6S KIS KM = 1,580,000 บาท
    สำหรับสินค้า Without bucket U55-6S KIS KM = 1,565,000 บาท

  • โดรนการเกษตร T50
    โดรนการเกษตร DJI รุ่น AGRAS T50
    ราคา
    315,000 บาท

    รายละเอียด

    โดรนการเกษตร DJI รุ่น AGRAS T50 นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยคูโบต้า

  • โดรนการเกษตร T25
    โดรนการเกษตร DJI รุ่น AGRAS T25
    ราคา
    251,000 บาท

    รายละเอียด

    โดรนการเกษตร DJI รุ่น AGRAS T25 นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยคูโบต้า

  • โดรนการเกษตร DJI รุ่น AGRAS T10
    โดรนการเกษตร DJI รุ่น AGRAS T10
    ราคา
    153,000 บาท

    รายละเอียด

    เป็นเจ้าของโดรนการเกษตร DJI รุ่น AGRAS T10 ด้วยข้อเสนอพิเศษ